Ha Long Bay เป็นอีกสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของเวียดนามเหนือ มีหมู่เกาะมากมายล้อมรอบ เหมาะกับคนที่ต้องการพักผ่อน เที่ยวสบายๆ ศึกษาประวัติศาสตร์เล็กๆน้อยๆ และยังได้รับการประกาศให้เป็นหนึ่งในมรดกของโลกทางธรรมชาติอีกด้วย ทำให้นักท่องเที่ยวที่มีโอกาสมาเที่ยวเวียดนามไม่พลาดที่จะไปสัมผัสบรรยากาศธรรมชาติที่บริสุทธิ์ของอ่าวฮาลองเบย์
เราก็เป็นอีกหนึ่งในนั้นที่ฝันมานานแล้วว่าถ้ามีโอกาสไปเที่ยวเวียดนามต้องไปให้เห็นกับตาสักครั้ง และวันนี้ก็มาถึง วันที่มีโอกาส เงิน เวลา และตั๋วเครื่องบินราคาดปรโมชั่น จึงตัดสินใจไปเที่ยวเวียดนามสองอาทิตย์ และวางแผนล่องเรือสำราญบนอ่าวฮาลองเบย์เป็นเวลา1วัน1คืน
รีวิวล่องเรือสำราญที่อ่าวฮาลองเบย์
เริ่มจากหาบริษัทจองทัวร์ไปฮาลองเบย์ จากที่ได้ใช้เวลาศึกษาข้อมูลและอ่านคอมเมนต์จากเว็บไซต์ต่างๆ และได้คุยกับนักท่องเที่ยวที่เจอกันในเมืองฮานอย ก็ได้คำแนะนำมาบ้างเกี่ยวกับประสบการณ์ล่องเรือที่ฮาลองเบย์ ซึ่งก็เป็นประโยชน์พอสมควร นักท่องเที่ยวส่วนมากที่เคยไปมาแล้วแนะนำมาว่าไม่ควรที่จะเลือกราคาที่ถูกเกินไป เพราะอาจจะไม่ดี หาเอาที่ราคากลางๆขึ้นไป เพราะมันอาจจะเป็นครั้งเดียวในชีวิตของเราที่มีโอกาสได้สัมผัสบรรยากาศนอนบนเรือที่ฮาลองเบย์ คุณจะได้รับในสิ่งที่คุณจ่ายเสมอจริงไหม จ่ายแค่ไหนได้แค่นั้น
หลังจากที่คิดอย่างถ้วนถี่แล้ว ก็ได้ตัดสินใจเลือกลงเรือ dragon legent จองกับบริษัท Indo Chaina Junk คิดอยู่เสมอว่า ทริปนี้จะต้องเฟอร์เฟค เพราะฝันอยากไปมานานแล้ว ดีกว่าจ่ายถูกแล้วต้องมาเสียใจทีหลัง ราคาก็จะประมาณคนละ 6000บาท ต่อ 1คืน (ราคานี้แล้วแต่วันเวลาที่จองอีกที) รวมอาหารสามมื้อ เครื่องดื่มจ่ายเองต่างหาก มีจำหน่ายบนเรือ ไปดูรีวิวกันเลยว่าสองวันหนึ่งคืนเราจะได้อะไรกลับมาบ้าง
ส่วนวิธีจองของเราก็คือ Walk in เข้าไปจองที่ออฟฟิศ Indo Chaina Junk เลยคะ เป็นหนึ่งในบริษัทจองทัวร์ในเมืองฮานอย ที่พนักงานของโรงแรมที่พักอยู่แนะนำมา ซึ่งอยู่ไม่ไกลมากจากโรงแรม เดินไปได้เลยคะ สำหรับใครที่ไม่ชอบยุ่งยาก สะดวกจะจองผ่านเว็บไซต์ก็ได้เหมือนกัน มีหลายแบบหลายราคาให้เลือกเลย แต่ที่จะมารีวิวให้ชมกันในวันนี้ก็คือ Dragon Legend Cruise คะ พอเสร็จขั้นตอนของการจ่ายเงิน แจ้งที่พัก เบอร์โทร และคอนเฟิร์มวันเดินมางกับทางบริษัทจัดหาทัวร์เรียบร้อยแล้ว ก็เป็นอันเสร็จพิธีของการจองคะ
ก่อนออกเดินทางหนึ่งวันพนักงานก็จะโทรมาคอนเฟิร์มและแจ้งเวลาที่รถจะไปรับที่โรงแรมตอนเช้ากับโรงแรมที่เราพัก ตามที่ได้แจ้งไว้
และรถแวนของบริษัทก็มารับที่โรงแรมตอนเช้า 07.45น. ตรงเวลาเป๊ะ
จากเมืองฮานอยถึงท่าเรือฮาลองเบย์11.45นาที ใช้เวลาเดินทาง4ชั่วโมง ระหว่างทางก่อนไปถึงท่าเรือ รถจะจอดหนึ่งครั้งที่ร้านขายของฝาก ต้องบอกว่ารถแวนของที่นี่เป็นแบบ Luxury เก้าอี้นั่งสบายมาก ไม่ต้องนั่งเบียดกันกับคนอื่น มีที่ชาร์จมือถือและน้ำดื่มให้ แอร์เย็น หลับไปงีบนึงตื่นขึ้นมาก็เกือบถึงแล้วคะ หลับอย่างเดียวไม่มองโลกเลย
Luxury Van ของเราคะ
12.00น. ที่ท่าเรือ Bai tu
ถึงแล้วคะท่าเรือ Bai tu จุดรับส่งนักท่องเที่ยวไปยังเรือสำราญที่เราได้จองไว้ ระหว่างที่รอเรือมารับไกด์ที่จะส่งเราขึ้นเรือก็จะแนะนำตัวและกล่าวทักทายลูกเรือ น้ำดื่มมีแจกฟรี ความรู้สึกระหว่างที่นั่งรอเรือก็คือตื่นเต้นคะ นั่งรอประมาณ20นาที ไกด์ก็ส่งเราลงเรือเล็กเพื่อไปยังเรือสำราญ Dragon Legend อีกที
เรือใหญ่ๆที่จอดอยู่ด้านหน้าก็คือ Dragon Legend Cruise ของเรานั่นเองคะ ใหญ่โตหรูหรามาก
13.00น. ถึงแล้วบนเรือ Dragon Regend
ใช้เวลา5ชั่วโมง กับการเดินทางทั้งหมดจากตัวเมืองฮานอย จนกว่าจะถึงบนเรือจริงๆ พอมาถึงก็ได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากสตาฟบนเรือ มีน้ำขิงเป็น Welcome drink และผ้าเย็นคนละ1ผืน ระหว่างที่นั่งรอเช็คอินเข้าห้องพักและรับกุญแจห้อง สตาฟก็แนะนำตัวเองและพูดเกี่ยวกับประวัติความเป็นมาของฮาลองเบย์ และเรือสำราญ Dragon Regend ให้เราฟัง ในขณะที่เรือก็เคลื่อนตัวไปอย่างช้าๆตลอดเวลา เมื่อพูดเสร็จแล้ว สตาฟก็จะเรียกชื่อลูกเรือเพื่อรับกุญแจและหมายเลขห้อง เสร็จแล้วก็ให้ทุกคนเอากระเป๋าไปเก็บที่ห้องและ เตรียมความพร้อมสำหรับอาหารเที่ยง
ถึงแล้วห้องพักของเรา
เปิดเข้ามาแอร์เย็นฉ่ำ มีหน้าต่างที่สามารถมองเห็นวิวด้านนอกได้อย่างสวยงาม มีโต๊ะและโซฟาเล็กๆริมหน้าต่างให้นั่งจิบเบียร์ (คิดแต่เบียร์ก็บรรยากาศมันให้จริงๆ) ภายในห้องพักมีเครื่องอำนวยความสะดวกครบครัน สะอาดสะอ้าน ยังคิดอยู่ในใจว่านี่มันห้องพักบนเรือจริงๆหรือนี่ ไม่ต่างจากห้องพักในโรงแรมหรู ภายในห้องน้ำมีอ่างอาบน้ำ และสามารถเปิดหน้าต่างดูวิวข้างนอกได้อีกด้วย วิวก็จะเป็นน้ำสีเขียวมรกตและโขลกหินที่โผล่ขึ้นมาเหนือน้ำขนาดต่างๆ ฟินเวอร์
ขณะที่กำลังฟินกับห้องพัก ถ่ายรูปเสร็จแล้วก็ขอกลิ้งไปกลิ้งมาที่เตียงซักสองสามตลบ ก่อนที่จะมีเสียงประกาศของสตาฟให้ออกไปที่ห้องอาหารเพื่อให้ไปรับประทานอาหารเที่ยง
13.30น. พร้อมหน้าพร้อมตากันที่ห้องอาหาร อาหารก็ทยอยเสริ์ฟมาทีละอย่าง ทุกอย่างอร่อยหมดเลยคะ ดูดี สมราคา กินจนอิ่มเลย พนักงานก็ริการดีมากๆ ไปดูกันว่าเซ็ตอาหารเที่ยงของพวกเรามีอะไรบ้าง
พอกินอาหารเสร็จเรียบร้อยแล้ว ใช้เวลาโดยประมาณชั่วโมงกว่าๆ สตาร์ฟก็บอกตางรางกิจกรรมต่อไป โดยมีสองตัวเลือกให้เลือกนั่นก็คือ
ตัวเลือกที่หนึ่ง ปั่นเรือแคนู โดยจะใช้เวลาทั้งหมดประมาณ 45 นาที ไปถึงภูเขาลี้ลับ ซึ่งจะมีสตาฟนำทาง ตัวเลือกนี้ค่อนข้างจะใช้แรงกำลังมากหน่อย
ส่วนตัวเลือกทีสอง นั่งเรือไปเป็นกลุ่มไปยังภูเขาลี้ลับ ชมวิว พกกล้องถ่ายรูปได้ เพราะไม่ต้องใช้กำลังอะไรเลย ไปแบบสวยๆเลยคะ
หรือจะพักผ่อนชิวๆ เซลฟี่อยู่บนเรือเฉยๆไม่ต้องทำกิจกรรมอะไรเลยก็ได้ อันนี้สตาร์ฟบอก อิอิ
พอทราบตารางกิจกรรมแล้ว ก็แยกย้ายกันกลับห้องเพื่อย่อยอาหาร และเตรียมตัวสำหรับกิจกรรม พอได้เวลา สตาร์ฟก็จะประกาศออกไมโครโฟน ให้มาพร้อมกันที่ห้องอาหาร
สำหรับเราแล้ว แน่นอนคะ ก็ต้องตัวเลือกที่หนึ่งนั่งบนเรือสวยๆสิคะ ไม่งั้นกล้องที่พกมาก็คงไม่ได้ใช้งาน และคงไม่มีรูปสวยๆมาอวดเพื่อนๆ
ก่อนไปทำกิจกรรมขอขึ้นไปถ่ายรูปชั้นบนหน่อย มีเบาะให้นั่งชมวิว บรรยากาศดีมาก สำหรับคนที่ไม่ไปทำกิจกรรมก็จะมานั่งจิบเครื่องดื่มเย็นๆ บนนี้คะ ฟินมากๆ
สระว่ายน้ำบนเรือ
15.40 น. ทุกคนออกไปทำกิจกรรมที่เลือกไว้ แยกกันขึ้นเรือ ปั่นเรือแคนนูหนึ่งลำ ล่องเรือเล็กก็ไปอีกหนึ่งลำ สังเกตุเห็นว่าเรือกลุ่มปั่นเรือแคนนูจะมีคนเยอะกว่า และพวกเราก็แยกกัน ไปเจอกันกันที่ภูเขาลี้ลับ
ถ่ายรูปขณะที่นั่งเรือ บรรยากาศฟินมาก สตาร์ฟก็พูดคุย เอนเตอร์เทนลูกเรือและแนะนำเกี่ยวกับสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆอย่างเป็นกันเองเพื่อสร้างความคุ้นเคยกับลูกเรือ ทำให้บรรยากาศบนเรือไม่เงียบเหงาและเป็นกันเองมากยิ่งขึ้น
ถึงปลายทาง ใช้เวลาประมาณ 25 นาที
มาแล้วขบวนเรือแคนู เห็นหน้าแต่ละคนนี้สะบักสะบอมมาก
พอทุกคนมาถึงแล้วก็พักผ่อนตามอัธยาศัย ลงเล่นน้ำ ถ่ายรูป แต่อากาศค่อนข้างร้อนมาก ไม่มีร่มเลย ก็เลยได้แค่ยืนแอบอยู่ใต้ร่มไม้เล็กๆ และเดินถ่ายรูปนิดหน่อยเท่านั้นเองคะ
16.40 น. ได้เวลากลับเรือแล้ว พวกเรานั่งเรือกลับกันเหมือนเดิม แต่พวกปั่นเรือแคนูขากลับนั่งเรือกลับแบบพวกเรา ส่วนเรือแคนนูพ่วงติดกับท้ายเรือ
17.00 กลับมาถึงเรือแล้ว มีน้ำขิงเย็นๆรอรับ แล้วทุกคนก็แยกย้ายกันกลับห้อง พักผ่อนตามอัธยาศัย จะไปว่ายน้ำ หรือซื้อเบียร์ไปจิบนั่งชมวิวบนเรือก็ได้ จนกว่าจะถึงหนึ่งทุ่มรับประทานอาหารเย็นพร้อมกัน
ชมพระอาทิตย์ตกดิน
19.00 น. ทุกคนก็จะเริ่มทยอยมาที่จุดรับประทานอาหาร โต๊ะทุกโต๊ะตกแต่งไว้รอเรียบร้อยแล้วอย่างสวยงาม มาเร็วก็จะได้โต๊ะดีหน่อย อย่างเช่นด้านข้าง เพราะสามารถมองเห็นวิวได้ชัดเจนกว่า
และนี่ก็คือโต๊ะรับประทานอาหารเย็นของเรานะคะ เป็นยังไงบ้างฟินเลยใช่ไหม พอทุกคนได้ที่นั่งครบกันหมดแล้ว อาหารก็เริ่มเสริ์ฟมาที่จะอย่าง และระหว่างที่นั่งรับประทานอาหาร ก็จะมีการแสดงคนตรี บรรเลงเพลง เพื่อเพิ่มบรรยากาศบนเรือให้อบอุ่นและเพลิดเพลินไปกับการรับประทานอาหาร ทุกเมนูอของค่ำคืนนี้อร่อยทุกอย่างเลยคะ อิ่มมาก บรรยากาศก็ดีเวอร์
พอรับประทานอาหารเสร็จ ก็จะมีการแสดงดนตรี ปิดท้ายด้วยสตาร์ฟทุกคนออกมากล่าวคำขอบคุณ 23.00น. ก็เริ่มแยกย้ายกันไปพักผ่อน บางคนก็ซื้อเครื่องดื่มไปจิบนอนดูดาวที่ชั้นบน ส่วนเราไม่ไหวแล้วต้องขอตัวไปนอนคะ
วันหนึ่งคืนผ่านไปอย่างรวดเร็ว แต่ความสุขที่ได้รับบนเรือสำราญลำนี้เชื่อว่ายังจะฟินไปได้อีกนาน
รูปวิวพระอาทิตย์ขึ้นตอนเช้า
จริงๆแล้วไม่ได้อยากตื่นเช้าเลย เพราะนอนหลับสบายเหลือเกิน แต่ด้วยความที่อยากจะเห็นวิวพระอาทิตย์ขึ้นสักครั้งที่ฮาลองเบย์ ก็เลยต้องตั้งนาฬิกาปลุกไว้ 6 โมงเช้า ออกมาสูดอากาศที่บริสุทธิ์พร้อมกับกล้องคู่ใจ และรูปที่ถ่ายได้ก็คุ้มค่าเหลือเกินกับการที่ต้องตื่นเช้า
หลังจากที่ถ่ายรูปเสร็จแล้ว ก็กลับมาที่ห้องอาบน้ำแต่งตัว เตรียมพร้อมสำหรับกิจกรรมต่อไป…
9.00น.นี่คงเป็นกิจกรรมสุดท้ายแล้วสำหรับทริปนี้ นั่งเรือไปชมถ้ำลึกลับ การเดินทางในวันนี้มีฝนตกลงมาอย่างหนัก ทำให้การเดินขึ้นไปยังถ้ำค้อนค่างลำบาก ต้องใช้ความระมัดระวังอย่างพิเศษ แต่ทุกอย่างก็ผ่านไปด้วยดีและสนุกมาก เพราะสตาฟของพวกเราได้เตรียมเสื้อกันฝนไว้ให้ และดูแลพวกเราเป็นอย่างดี และรูปที่ถ่ายได้ก็มีความสวยงามไปอีกแบบในวันฝนพรำ
วันฝนตกและบรรยากาศในถ้ำ
อาหารมื้อสุดท้ายของทริป
11.00น. หลังจากที่เรากลับมาจากถ้ำ ด้วยสภาพที่ไม่ค่อยดีเท่าไหร่เพราะฝนตก ก็แยกย้ายกันไปอาบน้ำอาบท่า เก็บกระเป๋า และมาพร้อมกันที่ห้องอาหาร เพื่อรับประทานอาหารร่วมกันเป็นมื้อสุดท้ายของทริป ก่อนแยกย้ายกันไปตามเป้าหมายหน้าของแต่ละคน วันนี้อาหารเที่ยงเป็นแบบบุฟเฟ่ต์ อิ่มอร่อยกันก่อนกลับ
รับประทานอาหารเสร็จแล้ว ก็กลับมาที่ห้องเพื่อไปเอากระเป๋าสัมภาระ เพื่อเช็คเอาท์ คืนกุญแจห้อง และชำระค่าเสียหาย ค่าเสียหายในที่นี้ก็คือค่าเครื่องดื่มที่เราสั่งบนเรือนั่นเองคะ เสร็จแล้วก็จะมีเรือเล็กมารับกลับไปที่ท่าเรือ เพื่อรอรถแวนมารับไปส่งตามโรงแรมต่างๆที่เราได้ระบุไว้
ระหว่างทางรถแวนได้จอดให้เราได้ดูโชว์หุ่นเชิด และรับประทานของว่างพร้อมกันอีกครั้ง ใช้เวลาประมาณ 30 นาที ก็ถือว่าเป็นอันจบทริป ที่เหลือก็คือนั่งอยู่ในรถจนกว่าจะไปถึงโรงแรม
ความประทับใจ
มาถึงจุดนี้แล้วรู้สึกว่าเงินที่จ่ายไปมันคุ้มค่ามากเหลือเกินกับสิงที่ได้รับกลับมาบนเรือสำราญลำนี้ ตั้งแต่รถมารับที่โรงแรม จนจบทริป รู้สึกประทับใจ บริการดีมากในทุกขั้นตอน พนักงานให้ความช่วยเหลือเป็นอย่างดีในทุกขั้นตอน โดยเฉพาะสตาร์ฟบนเรือทุกคนเป็นกันเองมาก ดูแลลูกเรือได้อย่างทั่วถึง อาหารบนเรืออร่อยทุกมื้อ ประทับใจทุกอย่างเลยคะ สมราคา
สำหรับบทความบางส่วนที่ไม่ได้ลงรูป ก็ต้องขออภัยด้วยนะคะ เพราะบางกิจกรรมมันไม่สะดวกที่จะถ่าย หวังว่าโพสต์นี้จะให้ความบันเทิงและเป็นประโยชน์กับผู้อ่าน หรือใครที่วางแผนจะไปเที่ยวฮาลองเบย์ เวียดนาม ไม่มากก็น้อยคะ สุดท้ายขอจบทริปด้วยรูปเรือ Dragon Legend Cruise ก็แล้วกันคะ
จอง Dragon Legend Cruise
Luxury Old Quarter hotel
เราพักที่นี่คะ Luxury Old Quarter hotelอยู่ใจกลาง Old quarter ย่านเมืองเก่าฮานอย สิ่งอำนวยความสะดวกภายในห้องพักครบครัน อาหารเช้าแบบบุฟเฟต์ กาแฟอร่อย มีเครื่องดื่มและผลไม้ต้อนรับ พนักงานอัธยาศัยดีและให้ความช่วยเหลือดีมาก ที่ตั้งดีเยี่ยม สามารถเดินทางไปยังสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมต่างๆและแหล่งอาหารที่ดีที่สุดของเมืองได้ ใกล้กับร้านสะดวกซื้อ และร้านอาหารอร่อยๆมากมาย อยู่ห่างจากทะเลสาบHoan Kiem 400 เมตร และวัดNgoc Son300 เมตร ใช้เวลาเดินประมาณ 15 นาทีเท่านั้น
บทความอื่นๆที่น่าสนใจ
สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญเมืองฮานอย ประเทศเวียดนาม , Silk Queen Hotel (โรงแรม ซิลก์ควีน ฮานอย ) , ของกินฮานอย ประเทศเวียดนาม , ฮานอย เวียดนาม รีวิวการเดินทาง และสถานที่ท่องเที่ยว
