เมื่อลมหนาวพัดมาเยือน เพื่อนๆคิดถึงอะไรคะ ถ้ามีเวลาและโอกาสไปเที่ยวอยากไปที่ไหนกันบ้าง คนส่วนมากน่าจะคิดเกี่ยวกับดอยหรือภูเขาอะไรทำนองนี้ เพื่อที่จะไปสัมผัสกับบรรยากาศลมหนาว ก็เป็นอีกคนนึงที่ชอบฤดูหนาวมากๆ เลยไม่พลาดที่จะจัดทริปไปเที่ยวบนดอย ดอยที่ว่านี้ก็คือ ดอยอ่างขาง เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญแห่งหนึ่งของจังหวัดเชียงใหม่ ตั้งอยู่ในเขตตำบลแม่งอน อำเภอฝาง ที่หลายๆคนคงเคยไปมาแล้ว ทริปนี้เดินทางโดยใช้มอเตอร์ไซด์คะ ทริปไหนไม่ไกลก็จะใช้มอเตอร์ไซด์ตลอด เพราะว่าสะดวก คล่องตัว และรวดเร็ว เส้นทางขึ้นดอยอ่างขางค่อนข้างลาดชัน มอเตอร์ไซด์จึงเหมาะที่สุดสำหรับทริปนี้ ที่สำคัญก่อนออกเดินทางต้องไม่ลืมเช็คเครื่อง
ฤดูหนาวก็หนาวอยู่แล้ว ขับขึ้นมาบนยอดดอยอากาศยิ่งหนาวมากขึ้นไปอีก ต้องแว้นแบบนี้ถึงจะเรียกว่าสัมผัสลมหนาวของจริง ฮ่าๆ ระหว่างทางต้นไม้เขียวขจี เป็นธรรมชาติมาก จะเห็นต้นไม้ที่มีดอกสีชมพูอยู่สองฝั่งของถนน เค้าเรียกกันว่าต้นอะไร เห็นคนโพสกันที่เฟสบุ๊คอยู่บ่อยๆ ต้นนางพญาเสือโคร่งรึเปล่า ไม่แน่ใจ แต่มันสวยมากๆ ระหว่างทางมีนักท่องเที่ยวหยุดรถเพื่อที่จะเซลฟี่กับต้นไม้สีชมพูตลอดทางเลย คงเป็นอีกจุดนึงที่กำลังฮอตตอนนี้ เห็นนักท่องเที่ยวต่างจังหวัดมากันเยอะเลย แล้วเราอยู่ใกล้แค่นี้จะพลาดได้ไง
แว้นมอเตอไซด์เที่ยวชมดอยอ่างขาง เห็นมีจุดชมวิวหลายจุด เพื่อที่ให้เราได้ถ่ายรูปวิวสวยๆ มีร้านอาหารเล็กๆอยู่ข้างทางจำนวนหลายร้าน ขับรถวนดูหาที่กางเตนท์ คืนนี้เราจะกางนอนเตนท์กัน ก่อนขึ้นมาที่นี่ แวะไปที่โลตัสฝาง ซื้อเบียร์ ซื้อปีกไก่ ซี่โครงหมู มาร์ชเมลโล่ และซอสหมัก เรียบร้อยแล้วคะ เตรียมพร้อมสำหรับคืนนี้
จุดชมวิวม่อนสน
เราจะกางเต็นท์นอนกันที่นี่คะ คือจุดชมวิวม่อนสน ขับรถจนทั่ว รู้สึกว่าชอบ คิดว่าน่าจะเป็นจุดชมวิวที่สวยที่สุด ก่อนอื่นเลยเราก็ต้องไปจ่ายค่าบำรุงสถานที่ และติดต่อขอเช่าถุงนอนก่อน ถ้าไปวันเสาร์ อาทิตย์คนละ 50บาท และวันธรรมดาคนละ 20 บาท เต็นท์หลังละ 220 บาท กางไว้ให้เรียบร้อยแล้ว หมอนใบละ 20 บาท ผ้าห่มผืนละ 30 ก็เเล้วแต่ว่าเราจะเอาอะไรบ้าง จำนวนกี่ชิ้นก็ได้จ่ายตามจำนวน ชำระเงินเรียบร้อยพนักงานก็จะเก็บบัตรประชาชนเราไว้ด้วย มารับพรุ่งนี้ตอนเอาถุงนอนมาคืนคะ เห็นหลายคนมีรถส่วนตัวก็จะเตรียมเครื่องนอนมาเอง บางคนเตรียมเต็นท์มาเองก็มี แต่ก็ต้องหาที่กางเต็นท์เองด้วย บริเวณจุดกางเต็นท์มีร้านขายอาหาร เครื่องดื่มเล็กๆเปิดให้บริการอยู่จำนวนมาก แต่ราคาก็จะแพงกว่าร้านข้างนอกนิดนึง อย่างเบียร์ลีโอก็กระป๋องละ 50บาท มีร้านเช่าเตา ถ่าน เนื้อเป็นชุดให้ทำหมูกะทะ ขายทุกอย่างสำหรับปิ้งย่าง เรียกได้ว่าไม่ต้องเตรียมอะไรมาเลย อ้อ!ที่นี่ยังมีบริการให้ชาร์ทแบตฟรีด้วย ถ้าแบตหมดสามารถถามได้ที่จุดเช่าเต็นท์ แต่เดินไปถามเมื่อไหร่ไม่เห็นว่างสักที คนใช้บริการเยอะเกิน ปลั๊กไม่เพียงพอ ฮ่าๆ จะให้ดีเตรียมมาเองดีกว่าคะ
เก็บของเข้าเต็นท์
ได้เต็นท์และเสบียงของเราคืนนี้แล้วคะ ทุกเตนท์มีคนจองหมด โชคยังมีได้หลังสุดท้ายพอดี มาครั้งแรกก็ไม่รู้ว่าคนจะมากันเยอะ มาตรงกับวันเสาร์ด้วย นี่ถ้าไม่มีเต็นท์คงเสียดายแย่เลย เพราะว่าจุดกางเต็นท์ที่นี่วิวสวยมาก จัดเตนท์ให้เป็นแถวแบบขั้นๆทุกเต็นท์จะได้เห็นวิวชัดเจนเหมือนกันหมด ส่วนเสบียงก็ไปเช่าเขามาคะ มีร้านค้าให้เช่าอยู่หลายร้านอยู่ฝั่งตรงข้าม ก็เดินไปเดินมาอยู่สองรอบ สอบถามราคาดูแล้วแต่ละที่ราคาไม่เท่ากัน แต่ก็มากน้อยกว่ากันไปไม่เกิน 20 บาท จนมาได้ร้านนี้ เตาถ่าน40บาท ถ่าน ซื้อมา2ถุง ถุงละ20บาท ไม้สนเกี๊ยะแถมมากับเตา ไฟแช็ค5บาท ค่าประกัน100บาท แม่ค้าจะคืนเงินประกันให้ตอนคืนของคะ เตรียมทุกอย่างพร้อมหมดแล้ว ตอนนี้ก็ได้เวลาผ่อนคลาย เดินยืดเส้นยืดสาย เดินสูดอากาศรอบๆสดชื่นมาก อากาศเย็นจัด มองดูผู้คนบ้างก็ไปยืนถ่ายรูปวิว บ้างก็ทำเซลฟี่กันอย่างมีความสุข บ้างก็เตรียมข้าวของเพื่อที่จะทำอาหารกันคืนนี้ ดูคึกคักจังเลย ส่วนตัวเราตอนนี้ยังถึงไม่5โมง นั่งอยู่ในเต็นท์เบียร์หมดไป4กระป๋องแล้ว เพราะบรรยากาศมันเป็นใจจริงๆ นั่งจิบเบียร์ไม่รู้สึกว่ามันขมเลย อิอิ
ความสนุกได้เริ่มขึ้นแล้ว
พระอาทิตย์ตกดิน ความสนุกยามค่ำคืนก็ได้เริ่มต้นขึ้น ได้เวลาก่อไฟ หลายเต็นท์เริ่มกินกันแล้ว กลิ่นเนื้อย่างหอมฟุ้งกระจาย เพราะว่าคนมากันเยอะมากๆ บางคนก็เริ่มเมาแล้ว นึกว่าจะแค่เราซะอีกที่กินเบียร์ก่อนเวลา ได้ยินเสียงกลุ่มวัยรุ่นดีดกีต้าร์ร้องเพลง กันอย่างสนุกสนาน บางกลุ่มเคาะแก้วเคาะขวดกันอย่างเมามันส์ เสียงเด็กร้องไห้ก็มีนะ ฮ่าๆ หลากหลายรูปแบบจริงๆ มีทั้งภาษาเหนือและภาษากลางไม่รู้ว่ามาจากที่ไหนกันบ้าง แต่ทุกคนมาที่นี่ล้วนมีจุดหมายปลายทางเดียวกัน คือต้องการที่จะมาเที่ยว พักผ่อน มาหาความสุข และก็มีความสุขจริงๆ ทุกคนไม่รู้จักกันแต่มีความสุขและเวลาดีๆร่วมกัน มันเป็นอะไรที่ดีมากๆ
ตอนนี้บรรยากาศเริศมาก มองออกไปเห็นวิวเป็นแสงไฟที่ถนนตอนกลางคืนสวยงาม เพลิดเพลินไปกับการผิงไฟและจิบเบียร์ กลิ่นเนื้อย่าง กลิ่นหมูกระทะหอมคละคลุ้งทั่วไปหมด ผู้คนพูดคุยกัน หัวเราะสนุกสนาน บรรยากาศคึกคัก แต่เสียอยู่อย่างเดียว คือไม่ได้เตรียมไฟฉายมาด้วย ต้องใช้ไฟจากพาวเวอร์แบงค์ ตอนเดินไปเข้าห้องน้ำก็จะมีไฟตรงบันไดทางขึ้นระหว่างชั้นของเต็นท์แค่หลอดเดียว ต้องเดินเตะฝุ่นไป แต่ห้องน้ำก็ไม่ไกลจากจุดกางเตนท์คะ ประมาณ50เมตร ครั้งต่อไปไม่ลืมแน่ๆ มันสำคัญจริงๆนะไฟฉายเวลาเราไปนอนเตนท์
เวลาผ่านไปหลายชั่วโมงหลังจากที่ทุกคนได้ตักตวงความสุขสนุกสนานกันได้อย่างเต็มที่แล้ว รู้สึกว่าตอนนี้เสียงคนคุยกันก็ค่อยๆเงียบลง เพราะคนเริ่มเข้านอน ได้ยินแค่เสียงกระซิบกระสาบกันนิดๆหน่อยๆ555 เบียร์ก็หมด ถ่านไฟก็มอด แล้วตอนนี้ จะเดินออกไปซื้ออีกก็หนาว อากาศเย็นขึ้นเรื่อยๆ ไม่ไหวแล้วคิดว่าได้เวลาเข้านอน พรุ่งนี้ต้องตื่นเช้ามาดูพระอาทิตย์ขึ้น
พระอาทิตย์ยามรุ่งอรุณ
ซ็อกแซ็ก ซ็อกแซ็ก เสียงคนเดินผ่านไปผ่านมานอกเต็นท์ ปลุกให้ตื่น ดูหน้าจอมือถือปลุกไปแล้วก่อนหน้านี้แต่ไม่ตื่น ปัดโธ่ ถ้าไม่มีเสียงคนคุยกันและเดินผ่านไปผ่านมาที่เต็นท์ก็คงไม่ตื่นแน่ๆ พลาดดูพระอาทิตย์ขึ้นแล้วเสียดายแย่ เพราะอากาศหนาวเย็นมากๆ ก็เลยทำให้เราตื่นยาก แต่พอมุดหัวออกไปนอกเต็นท์ คนตื่นมารอดูพระอาทิตย์ขึ้นเยอะมาก หลายคนตั้งกล้องเตรียมรอที่จะถ่ายรูปพระอาทิตย์ขึ้น พอพระอาทิตย์เริ่มโผล่มาให้เห็นเท่านั้นแหละ ทุกคนต่างก็รัวชัตเตอร์กันใหญ่เลยคะ มันสวยงามมาก พอพระอาทิตย์พ้นขอบฟ้า ต่างตนก็เริ่มเก็บข้าวของ เอาเครื่องนอนไปคืน ทยอยกลับบ้านคืนถิ่น คิดว่าทริปนี้ทุกคนน่าจะกลับบ้านกันอย่างมีความสุขพร้อมกับรูปสวยๆและความประทับใจมากมายเกี่ยวกับที่นี่
การมาเที่ยวในสถานที่แบบนี้ ถือเป็นการผ่อนคลายอย่างหนึ่ง เพราะได้สัมผัสกับธรรมชาติอันสดชื่น เห็นสิ่งสวยงาม ทำให้หายเหนื่อยจากการทำงาน เปลี่ยนบรรยากาศจากในห้องนอนมานอนในเต็นท์ มันก็สนุกและเพลิดเพลินดี เติมสีสรรให้กับชีวิต สำหรับใครที่ไม่ชอบติดดินแต่อยากมาค้างคืนที่ดอยอ่างขาง ก็ไปพักที่รีสอร์ทได้คะ ใครที่มาไม่ทันแล้วปีนี้ ปีหน้าก็ยังมี หวังว่าโพสต์นี้จะเป็นข้อมูลเล็กๆน้อยๆสำหรับคนที่อยากมาเที่ยวดอยอ่างขางไม่มากก็น้อย สุดท้ายแล้วขอให้ทุกคนมีความสุขกับการพักผ่อนคะ
แนะนำให้จองที่พักเชียงใหม่เก๋ๆ จองง่าย ชำระเงินก็ง่าย แม้ไม่มีบัตรเครดิต ได้เลยที่ Traveloka
รูปภาพเพิมเติมที่ ดอยอ่างขาง
