นาข้าวขั้นบันใด บ้านป่าปงเปียง สถานที่ท่องเที่ยวสุดฮิตทางธรรมชาติ จังหวัดเชียงใหม่

สวัสดีแฟนเพจรักเที่ยวทุกคน  วันนี้รักเที่ยวจะมารีวิวการเดินทางไปเที่ยวชมธรรมชาติที่สวยงามทางภาคเหนือ จังหวัดเชียงใหม่ เป็นอีกหนึ่งจังหวัดสุดฮิตตลอดกาลที่มีนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศเดินทางมาเที่ยวในฤดูฝนเป็นจำนวนมาก และสถานที่ท่องเที่ยวที่เราจะมารีวิวในวันนี้ก็คือ นาข้าวขั้นบันได บ้านป่าปงเปียง อ.แม่แจ่ม จ. เชียงใหม่ หลายคนอาจจะไปมาแล้วหรือเห็นผ่านตามาบ้างในหลายๆเพจ ว่ากันว่าทุ่งนาจะเริ่มเขียวขจีสวยงามในช่วงเดือนกันยายน

ปักหมุดไว้ตั้งแต่ปีแล้ว แต่ก็ไม่ได้ไปซักที จนมาถึงปีนี้ไม่ติดอะไร ก็เลยตัดสินใจไปให้เห็นกับตาสักครั้ง เห็นคนอื่นอยู่ต่างจังหวัดก็ยังบินมาเที่ยว แต่เราเองอยู่เชียงใหม่แท้ๆไม่ไปก็คงไม่ได้แล้ว เนื่องจากไม่ได้วางแผนล่วงหน้า โทรไปติดต่อสอบถามบ้านพักก่อนวันเดินทางแค่สองวัน เบอร์โทรที่พักก็หาในกูเกิลนี่แหละคะ โทรไม่ค่อยติด ติดก็ไม่รับ กว่าจะรับก็หลายสายเลย ปรากฏว่าบ้านพักเต็มหมด ก็เลยตัดสินใจจองห้องพักในตัวเมืองแม่แจ่มก่อนหนึ่งคืน แล้วค่อยวอคอินเข้าไปหาบ้านพักที่ป่าปงเปียง สำหรับคืนที่สอง เพราะคิดว่าไปเที่ยวทั้งทีก็อยากจะนอนทุ่งนา ใกล้ชิดกับธรรมชาติให้ได้มากที่สุด

การเดินทาง

การเดินทางของเราในครั้งนี้ใช้มอเตอร์ไซค์คะ ปกติแล้วถ้าเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศไม่ใกลมาก โดยเฉพาะในภาคเหนือ ก็จะขับมอเตอร์ไซค์ตลอด เพราะข้อดีของมันก็คือ สามารถเก็บรายระเอียดระหว่างทางได้มากกว่า สัมผัสกับธรรมชาติได้อย่างแท้จริง จะจอดถ่ายรูป หรือแวะจิบกาแฟที่ไหนเมื่อไหร่ก็ได้

เก็บภาพสวยๆระหว่างทาง

อุปสรรคในการเดินทาง

การเดินทางมาเที่ยวทุ่งนา ป่าปงเปียงวันนี้ ก็เป็นครั้งแรกเลย ไม่รู้ว่าอยู่ตรงไหน เปิดกูเกิลแมพ จุดเริ่มต้นก็ที่ไหนสักแห่งถนนทางขึ้นดอยอินทนนท์ ก็ขับตามแมพไปเรื่อยๆจนถึงแยกทางเข้าทุ่งนา บ้านป่าปงเปียง ถนนเป็นทางดิน จะบอกว่า เข้าไปแรกๆก็พอรับได้ คิดว่าถนนแบบนี้ขับได้ พอไปถึงครึ่งทาง ถนนก็เริ่มแย่ลงๆ ก็คิดว่าไหนๆเข้ามาเกินกว่าครึ่งทางแล้วอีกนิดเดียวก็ถึง แต่ยิ่งเข้าไปยิ่งลึกถนนก็เลวร้ายขึ้นเรื่อยๆ ทั้งโคลน ทั้งน้ำขัง เป็นหลุมเป็นบ่อขลุขละ ทางชัน โค้งไปโค้งมา โหดมาก มาถึงตรงนี้ก็ขับมาไกลเกินกว่าจะกลับรถแล้ว อีกแค่ 700เมตรจะถึง สุดท้ายก็ต้องพยุงรถคะ ขับไม่ได้ อันตรายมาก ทุลักทุเลกันไป รองเท้าก็มีแต่โคลน ร้อนมากเหนื่อยด้วย คิดว่าไปถึงแล้วจะออกมายังไง ใช้เวลาเกือบสองชั่วโมงกว่าจะไปถึงจุดหมาย ในระยะทางโดยรวมแค่ 10 กิโลเมตร ตั้งแต่ปากทางเข้า

พอเดินไปถึงบริเวณหมู่บ้านป่าปงเปียง สอบถามคนระแวกนั้นว่ามีทางออกทางอื่นไหม เขาก็บอกว่าไม่ต้องออกไปทางเดิม พอเที่ยวหรือถ่ายรูปอะไรเสร็จแล้ว ขับรถตามถนนไปเรื่อยๆก็จะมีทางออกทะลุไปถึงในเมืองแม่แจ่มเลย ถนนดีกว่ามาก เวรกรรม! สรุปก็คือเข้ามาทางในเมืองแม่แจ่มถนนดีกว่า

ถึงแล้วนาข้าวขั้นบันได บ้านป่าปงเปียง

ลำบากลำเค็ญกว่าจะเข้ามาถึง เพราะเลือกผิดเส้นทาง แต่ก็ถือว่าเป็นประสบการณ์และฝึกความอดทน ใครบ้าพลังเชิญไปทดลองกันได้นะจ๊ะ ไปดูกันนะคะว่าภาพถ่ายจะสวยคุ้มกับการเดินทางไหม

ภาพถ่ายเมื่อวันที่ 6กันยายน 2018 วันแรกของการเดินทาง เวลาประมาณ 15.30 น.

สำหรับที่พักที่นาข้าวบ้านป่าปงเปียง ยังมีสวยๆอีกหลายหลังนะคะ ที่เขียนเบอร์ติดไว้ให้เช่า เพียงแต่ไม่ถูกแชร์ไปในโซเชียลมีเดียเท่านั้น ใครที่อยากมาเที่ยว มาพักในเมืองแม่แจ่มก่อนหนึ่งคืน แล้วค่อยไปหาที่พักกลางทุ่งนาอีกหนึ่งคืนก็ไม่เลวนะคะ ในกรณีโทรไปจองแล้วที่พักเต็ม ไปเห็นสถานที่จริง จะได้เลือกมุมที่ถูกใจ

พอถ่ายรูป ขับรถสำรวจพื้นที่กันไปพอประมาณแล้ว เราก็กลับไปตัวเมืองแม่แจ่มเพื่อไปเช็คอินที่โรงแรม อาบน้ำพักผ่อน จิบเบียร์เย็นๆ แล้ววางแผนกันใหม่ ตื่นเช้ามาถ่ายรูปทะเลหมอกในตอนเช้าของวันพรุ่งนี้

คืนนี้พักที่นี่คะ
แม่แจ่มโฮเทล แอนด์ รีสอร์ต รีวิวที่พักจะมารีวิวให้ทีหลังนะคะ

เช้าวันใหม่ วันที่7 กันยายน 61

ตั้งนาฬิกาปลุกตี5ครึ่ง แต่ตื่นจริงๆเกือบ6โมง ดีงาม! รีบล้างหน้าแปรงฟัน น้ำเดี๋ยวค่อยกลับมาอาบ ระยะทางจากที่พักไปทุ่งนา ประมาณ 10 กิโลเมตร ออกจากห้อง6โมง15นาที อากาศเย็นสบายกำลังดี ไปถึงทุ่งนาเกือบๆ7โมง รูปก็จะประมาณนี้คะ จอดรถถ่ายรูปจุดเดิม รูปก็จะคล้ายๆกันกับเมื่อวาน ที่เพิ่มเติมมาคือทะเลหมอก

เวลาประมาณ 07.00น.

จุดชมวิวบ้านระเบียงนา

ที่พักบ้านระเบียงนา

จุดแรกคะ ไม่ได้พักที่นี่แต่สามารถมาถ่ายรูปที่นี่ได้ บ้านระเบียงนา บ้านป่าปงเปียง ใครที่จะโทรมาจองบ้านพัก แนะนำให้โทรล่วงหน้าหลายๆวันนะคะ เพราะก่อนจะมาก็โทรมาจองเหมือนกัน แต่ไม่ว่าง เพื่อนๆสามารถโทรสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับบ้านพัก สภาพอากาศ สีหรือฤดูกาลของนาข้าว ได้ที่เบอร์ 08 0774 6883 คะ เป็นเบอร์เจ้าของที่พัก (คุณบัติ) บ้านระเบียงนา

ขับรถไปอีกเรื่อยๆก็จะได้เจอกับวิวทุ่งนาสีเขียวกว้างใหญ่ พร้อมกับทะเลหมอกปกคลุมรอบๆภูเขา สวยมาก ยืนสตันกับวิวนี้ไปสักครู่หนึ่ง เหมือนกับร่างกายกำลังดูดพลังงานบางอย่างจากวิวนี้อยู่ มันสดชื่นมากจริงๆ สมองโล่งโปร่งไปเลย เห็นจากรูปภาพมันก็ไม่เท่ากับมายืนที่นี่ด้วยขาตัวเองจริงๆ

ถ่ายมันให้ครบทุกมุม ทั้งซ้ายและขวา

สำหรับใครที่ยังไม่เคยไป และเดินทางเอง ทางเข้าไปบ้านป่าปงเปียงสามารถเข้าได้สองทาง แนะนำให้เข้าไปทางตัวเมืองแม่แจ่ม ทางบ้านทุ่งยาว ตามภาพด้านล่างคะ

เข้าทางนี้นะ

ปล. เที่ยวฤดูฝนถนนหนทางก็ลำบากเป็นเรื่องธรรมดา โดยเฉพาะเส้นทางธรรมชาติในช่วงฤดูฝน แต่อย่างไรก็ตาม การเดินทางไปเที่ยวนาข้าวขั้นบันใด บ้านป่าปงเปียงมันไม่ใช่เรื่องยากแต่อย่างใด ยังมีวิธีอื่นที่สะดวกสบายกว่าที่สามารถเข้าไปได้ อย่างเช่นใช้บริการรถสี่ล้อ หรือเลือกใช้เส้นทางที่ง่ายกว่าตามที่ได้แนะนำไปแล้วด้านบน ก็จะไม่เจออุปสรรคในการเดินทางคะ แต่ในกรณีนี้ขอรีวิวบอกเล่าเรื่องราวต่างๆ อุปสรรถในการเดินทางที่เกิดขึ้น เพื่อจะได้เป็นประโยชน์แก่นักท่องเที่ยวคนอื่นต่อไป และผู้อ่านจะได้เห็นเรื่องราวต่างๆในมุมมองที่หลากหลาย ว่าการเดินทางไปเที่ยวไม่ใช่แค่แบกกล้องเข้าไปแล้วจะได้รูปสวยๆกลับบ้านเลย มันต้องมีอุปสรรคระหว่างทางอยู่บ้าง สำหรับรูปภาพบางส่วนที่ไม่ได้ลง อย่างเช่นรูปถนนวิบากทางเข้าทางดอยอินทนนท์ที่ได้บอกไปนั้น ต้องขออภัยด้วยเพราะอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่พร้อมจับกล้องถ่ายรูปจริงๆ

ถนนขากลับออกจากบ้านป่าปงเปียงไปในเมืองแม่แจ่ม

ข้อมูลเพิ่มเติม

การเดินทาง สามารถเดินทางได้หลายวิธี แต่อย่างแรกเลยต้องพาตัวเองมาถึงที่จังหวัดเชียงใหม่ให้ได้ก่อน จะด้วยทางเครื่องบิน รถโดยสาร หรือรถไฟก็แล้วแต่ความชอบ หลังจากนั้นค่อยเลือกวิธีเดินทางไปยังนาข้าว หมู่บ้านป่าปงเปียง

1. รถส่วนตัว ถ้าไปช่วงฤดูฝน ทางแฉะ มีโคลน ทางแคบ ควรใช้เส้นทางอำเภอแม่แจ่ม เลี้ยวเข้าทางบ้านทุ่งยาว เพราะถนนดีกว่า พอผ่านทางดินมาได้แล้วก็จะเป็นทางเลียบเนินภูเขา สามารถมองวิวทุ่งนาของหมู่บ้านอื่นๆขึ้นไประหว่างทางได้อีกด้วย ตอนที่ขับเข้าป่าปงเปียง เห็นคนกำลังสร้างถนนคอนกรีต อีกไม่นานก็คงมีถนนใหม่ให้ได้ใช้กันคะ ที่สำคัญก่อนออกเดินทางควรเช็ครถ เติมลม สำรองน้ำมันไว้ด้วย
2. นั่งรถสองแถวจาก ขนส่งช้างเผือก-จอมทอง จากจอมทองไปแม่แจ่ม โดยโทรติดต่อที่พักให้เอารถมารับ-ส่งตรงปากทางเข้า สอบถามราคากับที่พักให้แน่นอน ถ้าไปหลายๆคนคุ้ม เพราะจ่ายราคาเหมาต่อคันคะ
3. การไปนอนบ้านพักกลางทุ่งนา ของสำคัญที่ควรพกไปด้วยก็คือไฟฉาย แบตสำรองสำหรับชาร์ทอุปการ์ต่างๆ ครีมทากันยุง
   สำคัญที่สุด ควรจะจองที่พักและสอบถามเรื่องรถที่จะมารับ-ส่งตรงตรงทางเข้าหมู่บ้านป่าบงเปียงกับเจ้าของที่พักให้เรียบร้อยก่อนออกเดินทาง

ปล. เดือนกรกฏาคม เป็นช่วงดำนา ลงข้าว
เดือนกันยายน – ตุลาคม เป็นช่วงต้นข้าวเริ่มเขียวขจี เตรียมออกรวง
ต้นเดือนพฤศจิกายน ข้าวเริ่มออกรวงสีทอง เตรียมเก็บเกี่ยว

จบทริปอย่างสวยงาม

ทีแรกตั้งใจว่าจะนอนสองคืนในเมือง1คืน และที่ทุ่งนาหนึ่งคืน เพี่อที่จะได้สัมผัสกับบรรยากาศทุ่งนาและใกล้ชิดธรรมชาติได้มากที่สุด ไม่มีเสียงรถ ไม่มีไฟฟ้า ได้ยินแต่เสียงนกและแมลง นั่งกินอาหารเช้าแบบขันโตก หรือปิ่นโต วิวทุ่งนาสีเขียว อารมณ์ประมาณนี้ คริ คริ แต่เปลี่ยนใจคะ เพราะว่าพอใจกับรูปที่ได้มาแล้ว ทั้งนาข้าว ทั้งทะเลหมอกในตอนเช้า ขาดก็แต่ตอนพระอาทิตย์ตกดิน และก็ยังโชคดีกับอากาศ อาจจะมีครึ้มๆบ้าง แต่ตอนที่ไปถ่ายรูปฝนไม่ตกเลย ไว้โอกาสหน้า นาข้าวเปลี่ยนสีเป็นสีเหลืองทอง หวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้กลับมาที่นี่อีกครั้ง ถ้าได้มาอีกจริงรับรองว่าจะมาอัพเดตรูปภาพสวยๆให้เพื่อนๆได้เห็นอย่างแน่นอนคะ

จองที่พักแม่แจ่ม